REVIEW : อยุธยา เมืองเก่าของเราแต่ก่อน
ในวันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี ได้พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่จังหวัดอยุธยา ซึ่งได้ประวัติความรู้มากมายจึงนำมาเผยแพร่ให้รู้ว่าในประเทศไทยของเรามีสิ่งสวยงามมากขนาดไหน...
- พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์
เกิดขึ้นมาจากแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ของ รศ. เกริก ยุ้นพันธ์ ภายในพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนด้านนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจัดเป็นสวน พักผ่อน ร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้หลายหลายพันธ์ุ และบริเวณสวนที่เย็นและร่มรื่นส่วนที่สองก็คือ ภายในอาคารที่ได้รวบรวมของเล่นหลากหลายชนิดไว้
และในรูปข้างบนนะคะก็คือ คุณรศ. เกริก ยุ้นพันธ์ ให้การต้อนรับกันเป็นอย่างดี และเป็นกันเอง
อาคารพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมชั้นล่างของอาคารจัดแสดงของเล่นไทยยุคเก่าในสมัยสุโขทัย อยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ มีทั้งตุ๊กตาดินเผา กระปุก ออมสินดินเผา ฯลฯ และมีพวกข้าวของเครื่องใช้คนไทยยุคโบราณ ตั้งแต่ 100 ปีย้อยลงมาถึง 30 ปีที่แล้ว มีของโชว์มากมาย และมีการจัดแสดงใส่ตู้โชว์อย่างเป็นระเบียบสวยงาม
เมื่อเราจะเดินขึ้นและในบริเวณของชั้นสอง ขั้นพักบันไดก็จะมีภาพวาดลวดลายน่าารัก และสวยงามมากเลยทีเดียว
ในส่วนของชั้นบนจัดแสดงโมเดลการ์ตูนขนาดใหญ่ เหล่าฮีโร่ขวัญใจเด็ก ๆ ทั้งหลาย อย่าง อุลตร้าแมน ซูเปอร์แมน สไปเดอร์แมน เจ้าหนูอะตอม และอีกหลากหลายตัว ยืนคอยต้อนรับผู้มาเยือนอยู่ และมีภาพที่อยู่ติดกับฝาพนังขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่มีคนถ่ายรูปกันเยอะแยะมากมาย รวมทั้งมีเครื่องดินเผา เครื่องแก้วที่ได้รวบรวมไว้
เมื่อเราเดินลงมาสู่ข้างล่างก็จะพบของเล่นไว้จำหน่ายสำหรับผู้ที่ให้ความสนใจและชื่นชอบในของเล่นอีกด้วย ซึ่งในส่วนนี้ก็มีคนให้ความสนใจกันมากพอสมควร
- วัดหน้าพระเมรุ
ตรงบริเวณสถูปเจดีย์ต้นโพธิ์ก็มีพระเศียรของพระพุทธรูปอยู่ ซี่งเป็นที่น่าสงสัยว่าในสมัยในเกิดอะไรขึ้นบ้าง
และนี่ก็คืออุโบสถซึ่งภายในก็มีพระประธาน"พระพุทธนิมิตรวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ"เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของการสร้างพระพุทธรูปในสมัยอยุธยา
- วิหารพระมงคลบพิตร
- ตลาดน้ำอโยธยา
เมื่อเดินเข้ามาอีก ก็จะเจอ"ตลาดน้ำอโยธยา" ซึ่งเป็นป้ายขนาดใหญ่ที่บ่งบอกชื่อของสถานที่นี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ของกินเยอะมากเลือกซื้อเลือกกินกันตามสะบาย เป็นตลาดน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยเนื้อที่กว่า 60 ไร่ อาจทำให้เราต้องใช้เวลาทั้งวันในการเดินจนครบทั่วทั้งพื้นที่ที่กว้างใหญ่แห่งนี้ ด้วยว่าตลาดน้ำอโยธยาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม เพราะได้ทั้งความรู้เชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ได้ทั้งการเรียนรู้วิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชาวไทยในสมัยก่อน
และตรงนี้เราอยู่สะพานข้ามฝั่ง บรรยากาศภายในบริเวณตลาดน้ำอโยธยารอบๆก็ดึงดูดให้เดินเล่นตลอดทางเดิน
และได้พักรับประทานอาหารกันที่นี่ ซึ่งอาหารที่ฮิตก็คือ ส้มตำ หอยทอด ในตลาดน้ำอโยธยาก็มีร้านส้มตำมากมาย ซึ่งร้านที่เราได้รับประทานก็คือ "ตำซะเบ้อเร่อเลย" ของฮิตของร้านนี้ก็คือส้มตำถาด ราคาก็ไม่สูงมากนัก รสชาติก็เอร็ดอร่อย
เรามาถึงตลาดอโยธยาสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่จะต้องเป็นของฝากคือโรตีสายไหม ซึ่งเราก็ได้แวะที่ร้าน"ชารีฟโรตีสายไหม" ได้ทำแผ่นโรตีใหม่ๆสดๆร้อนๆ น่ารับประทานมาก
มุมนี้ก็คือของฝาก จะขายกันราคาทั่วไปคือ 3 กล่อง 100 บาท มีให้เลือกมากมายคละได้หลายอย่าง น่าชวนหลงใหลให้ซื้อ
เมื่อเดินต่อมาก็พบร้าน"หม้อแกงแม่ยาย" เพราะร้านนี้มีการทำขนมชั้นที่สีสันสดใสน่ารับประทาน จึงได้ซื้อมาลองรับประทานดูว่าจะอร่อยเหมือนหน้าตาหรือเปล่า
ตอนจะเดินกลับรถ จึงได้ถ่ายรูปเก็บไว้อีกครั้ง เพราะจะได้มาเที่ยวแบบนี้กับเพื่อนต่อไปคงเป็น โอกาสที่ยากมากๆ
หมดเวลาสนุกแล้ว จึงเดินกลับขึ้นรถ ก่อนกลับก็ได้พบสถูปเจดีย์ทีสร้างอยู่ข้างหลัง และด้านหน้าเป็นชื่อของตลาดอโยเดียที่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นที่น่าสนใจมากว่าในปัจจุบันกับสมัยก่อนได้เปลี่ยนไปเยอะมาก
-และเราก็เดินทางกลับจังหวัดราชบุรีโดยสวัสดิภาพ-